หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 Facebook ถือได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงอิทธิพลแพลตฟอร์มหนึ่งที่ช่วยผู้คนนับล้านเชื่อมต่อระหว่างกันได้ง่ายขึ้นผ่านแอป Messenger, Instagram และ WhatsApp
จนกระทั่งวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาวงการโซเชี่ยลมีเดียมีปรากฏการณ์ใหม่ที่เรียกเสียงฮือฮาอย่างมาก จากการที่มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก CEO ของบริษัท Facebook ประกาศในงาน Facebook Content Argument 2021 ว่าทางบริษัทจะรีแบรนด์และเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ เป็น "Meta"
จากการเปลี่ยนแปลงชื่อในครั้งนี้เป็นเหมือน First step ที่ทำให้วงการ Social Media ก้าวเข้าสู่อีกขั้นของโลกเสมือนความจริง หรือ Metaverse
ด้วยวิสัยทัศน์ที่พยายามจะพา Facebook หรือ Meta ไปสู่โลกที่เหนือกว่า มาร์ก ได้กล่าวถึงแนวทางใหม่ของบริษัทไว้ว่า "เป้าหมายที่ครอบคลุมของเราในการริเริ่มทั้งหมดนี้คือการช่วยให้ Metaverse มีชีวิต" นอกจากนี้ Metaverse ยังช่วยสร้างโอกาสให้กับเหล่าครีเอเตอร์หรือศิลปินที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ได้มีโอกาสได้ใช้ความสามารถ หรือเข้าถึงเพื่อให้ผู้ชมได้รับความรู้สึกเหมือนกับอยู่ ณ จุดนั้นจริง ๆ แล้ว Metaverse คืออะไร ต่างอะไรกับ AR, VR และ MR ที่เรารู้จักกัน วันนี้ Dope Eyes ขอสรุปมาให้อ่านเข้าใจง่าย ๆ กัน
หลายๆคนอาจเข้าใจผิดว่าMetaverse เป็นเพียงโลกของเกมส์ เหมือนในหนัง Ready Player One ที่ทุกคนอาจเคยได้รับชมกัน แต่กลับกัน Metaverse เปรียบเสมือนโลกที่ผู้ชมสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ในโลกนั้นได้จริงผ่านเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น VR, AR, MR หรือแอปบนสมาร์ทโฟน เรียกได้ว่าMetaverse เป็นขั้นกว่าของการติดต่อกันแบบไร้พรมแดน ที่จะคลอบคลุมในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งคาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้าเราคงอาจจะได้ใช้ชีวิตแบบนี้จริง ๆ
โดยปัจจุบันช่องทางหลัก ๆ ที่สามารถเข้าถึงโลกของ Metaverse มีหลัก ๆ อยู่ 4 ช่องทาง
VR (Virtual Reality) คือการจำลองภาพเสมือนจริง (Fully Immersed) ผ่านอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่าแว่น VR เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการ์ณครบทุกรูปแบบ ทั้งภาพ เสียง การสัมผัส หรือแม้กระทั่งกลิ่นโดยทางFacebook เองก็ได้มีการสร้างแว่น Oculus VR2 ในปี 2563 ที่ผ่านมา โดยพยายามแก้ไข pain point ของแว่น VR ในยุคก่อนที่ใช้งานยากและแพง เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
AR (Augmented Reality) คือการผนวกโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนความจริงเข้ามาด้วยกันจากการใช้เทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อต่าง ๆ เช่นสมาร์ทโฟน หรือแว่นตา AR ที่ทาง Facebook ได้ร่วมมือกับ เรย์แบน (Ray-Ban) โดยแว่นตานี้ทำงานร่วมกับแอป Facebook View
MR (Mixed Reality) คือการรวมจุดเด่นของ VR และ AR มาด้วยกัน เป็นการนำภาพ Digital Graphic มาซ้อนทับกับสภาพแวดล้อมในโลกของจริงได้อย่างสมจริง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตอบสนองต่อกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ช่องทางผ่านการใช้งานทางสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่องทางนี้จะเป็นช่องทางที่ได้รับประสบการณ์น้อยที่สุด
นอกจากนี้ในโลกของ Metaverse จะมีการสร้าง Avatar เพื่อเป็นตัวแทนของโลกทั้ง 2 ใบ โดยสามารถสร้างรูปลักษณ์ให้แตกต่างจากตัวตนของเราจริง ๆ ได้ ในโลกนี้เราสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เหมือนโลกความจริง เช่น การดำเนินธุรกิจ เศรษฐกิจ และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชุมชน
และแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจรวมไปถึงเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ทั่วโลกต้องปรับตัวให้ทัน ไม่ว่าจะเป็นการหาทักษะใหม่ๆที่มีความจำเป็น หรือช่องทางใหม่ ๆ เพื่อต้อนรับกับโลก Metaverse ที่กำลังจะมาถึงนี้