top of page

All I Want For Christmas Is You เพลงบำนาญตลอดชีวิตของ Mariah Carey

เพียงแค่เริ่มก้าวเข้าเดือนพฤศจิกายนของทุกปี กลิ่นอายของบรรยากาศเทศกาลคริสต์มาสก็เริ่มมาให้เราได้สัมผัสกันแล้ว ทั้งสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ การตกแต่งในห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงเพลงประจำเทศกาลที่เราจะได้ยินกันเป็นประจำ และหนึ่งในเพลงที่ต้องเปิดในทุก ๆ ปี ก็คงหนีไม่พ้นเพลง All I Want For Christmas Is You ของมารายห์ แครี (Mariah Carey) ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล

จนขนาดที่ทุกคนถึงกับแซวกันว่า อยากจะมี Passive Income ตลอดชีวิตแบบมารายห์บ้าง


รายได้ที่มารายห์ แครีทำได้จากเพลง “All I Want For Christmas Is You”



เรียกได้ว่าพอถึงปลายปีเมื่อไหร่ ศิลปินหลาย ๆ คนแทบจะต้องหลีกทางให้กับเพลง All I Want For Christmas Is You จริง ๆ เพราะเมื่อใกล้คริสต์มาสทีไร ยอดสตรีมก็จะพุ่งขึ้นติดชาร์จขึ้นมาทุกครั้ง Celebrity Net Worth (CNW) เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคมของทุก ๆ ปี มารายห์ทำเงินจากเพลง All I Want For Christmas Is You ราว 600,000 - 1,000,000 เหรียญ หรือราว ๆ 20 - 40 ล้านบาท


โดยในปี 2019 เพลงนี้ได้ติดอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard Hot 100 เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1994 ที่ได้ปล่อยเพลงนี้ออกมาเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าต้องรอคอยถึง 25 ปีเลยทีเดียว


ยังไม่นับเงินที่ได้รับจากยอดสตรีมมิงเพลงจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Spotify ที่มียอดสตรีมกว่า 1.2 พันล้านสตรีม และอาจสร้างรายได้มากกว่า 1 แสนล้านเหรียญต่อปี


ทำไมถึงได้กลายเป็นเพลงฮิตตลอดกาล



เพลง แอนดรูว์ มอลล์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านดนตรีที่มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์นบอกกับ TIME เป็นเพลงจากอัลบั้ม Merry Christmas ในปี 1994 ในขณะนั้นมารายห์มีอายุเพียง 24 ปี เธอได้ร่วมแต่งเพลงนี้กับโปรดิวเซอร์ Walter Afanasieff ที่ใช้เวลาเขียนเพลงเพียงไม่ถึงกี่ชั่วโมง


ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ช่วยส่งให้เพลงนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ที่เห็นได้ชัดเลยก็คงไม่พ้นพลังเสียงอันทรงพลังของตัวนักร้องเอง และสไตล์การร้องที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเพลงคริสต์มาสเพลงอื่น ๆ ที่มีในสมัยนั้น


แอนดรูว์ มอลล์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านดนตรีที่มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์นบอกกับนิตยสาร TIME ว่าเพลงนี้ไม่ใช่เพลงทางศาสนา “เป็นเพลงที่เธอพูดถึงถึงคริสต์มาส ที่ไม่ได้ใส่ความเชื่อในเรื่องศาสนาเข้าไปเลย แต่เป็นเพลงรัก ที่ทุกคนสามารถมีประสบการณ์ร่วมกันได้ เป็นคู่รักที่ไม่มีชื่อ ไม่มีเพศ จึงทำให้ทุกคนสามารถแทนตัวเองลงไปในเพลงได้”


พลังแห่งการโปรโมท



นอกจากเพลงที่จะมีความน่าสนใจในตัวเองอยู่แล้ว พอได้รับการโปรโมทที่ต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ก็ช่วยเสริมให้เพลงนี้ยิ่งติดอยู่ในใจคนทั่วโลก เช่น ในปี 2003 เพลง All I Want For Christmas Is You ถูกใช้ประกอบภาพยนตร์รักประจำคริสต์มาสอย่าง Love Actually ที่ออกมาหลังจากเพลงนี้ถึง 10 ปี ความประสบความสำเร็จของภาพยนตร์ส่งผลให้คนจดจำเพลงไปด้วย ในปี 2011 มารายห์นำเพลงนี้มาร้องในเวอร์ชันใหม่คู่กับจัสติน บีเบอร์ และยังมีการต่อยอดบทเพลงไปทำนิทาน รวมไปถึงภาพยนตร์แอนิเมชันอีกด้วย หรือในปีหลัง ๆ มานี้ที่เหล่าคนในโซเชียลจะชอบทำมีมล้อเพลงนี้ในทุก ๆ ปี ว่าพอจบฮัลโลวีนปุ๊ป ก็ถึงเวลาของเพลง All I Want For Christmas Is You แล้ว มารายห์เธอก็ไม่รอช้า เมื่อรู้ว่าเป็นกระแสทุกปี เธอก็จัดการล้อตัวเองซะเลย ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีทุกปี


ถือว่าเป็นเคสของนักร้องที่ประสบความสำเร็จสุด ๆ กับการปล่อยเพลงประจำเทศกาล ที่สามารถทำรายได้มหาศาลให้กับตัวนักร้องได้ทุกปี เพราะนอกจากชื่อเสียงของเพลงแล้ว การโปรโมท รวมไปถึงการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ก็ช่วยเสริมให้เพลงนี้ยังคงอยู่ในกระแสได้ตลอด



9 views0 comments
bottom of page